1.Capricornus
หรือ ราศีมังกร ชาวกรีกโบราณหรือชนชาติแถบ
ยุโรปมีความเชื่อว่า มังกรเป็นสัตว์ในเทพนิยายซึ่งเดิมมีรูปร่างเป็น
แพะ แต่ต่อมาได้กลายร่างโดยมีส่วนบนเป็นแพะ หาง เป็นปลา จึงมี
ชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แพะทะเล
ในเทพนิยายกรีกมีเรื่องเกี่ยวกับราศีนี้ก็คือ เทพบดีซูสมอบหน้าที่ให้
แกนิมีด ผู้ถือแก้วน้ำของเหล่าเทพเจ้าเป็นผู้ส่งน้ำไปยังโลก โดยเอียง
แก้วให้น้ำไหลอย่างไม่ขาดสาย กลายเป็นแม่น้ำหลายสายบนโลก รวม
ทั้งแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นสถานที่รื่นรมย์ของเทพเจ้าแพน ผู้มีร่างเป็นแพะ
และชอบเป่าขลุ่ย วันหนึ่งงู ยักษ์ไทฟอนจะเข้ามาทำร้าย เทพเจ้าแพน
เขาจึงกระโดหนีลงน้ำ แต่ว่ายน้ำไม่เร็วเพราะกีบแพะเล็กนิดเดียว ดัง
นั้นไท้เทพซูสจึงช่วย แปลงร่างของเทพแพนให้เป็นหางปลา และ
เรียกสัตว์ชนิดใหม่นี้ว่า แพะทะเล หรือ มังกร
ต่อไป
หรือ ราศีพฤษ ดาวพฤษนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ดาวตา
วัว"ชื่อเฉพาะเป็นภาษาอาหรับว่า อัลดิบะแรน (Aldebaran) แปล
ว่าผู้ติดตาม นิยายกรีกได้กล่าวถึง ราศีพฤษนี้ว่า ในประเทศเฟนิเซีย
โบราณมีสาวงามชื่อยูโรปา ลูกสาวของอินาคัว ยูโรปาชอบฝูง!
เลี้ยงของพ่อมาก เทพปริณายกซูสได้หลง รักยูโรปา แต่รู้ว่าอินาคัส
คงไม่ยอมแน่ จึงแปลงร่างเป็นวัวสีขาวราวหิมะไปปะปนในฝูง!
เมื่อยูโรปาเห็นวัวสีขาวที่ไม่ดุจึงเข้าไปลูบวัว และขึ้นไปขึ่บนหลัง
วันต่อมาเมื่อยูโรปาขึ้นขี่วัวอีก ซูสคิดจะพาเธอไปเกาะครีต (Grete)
จึงวิ่งไปอย่างเร็วแต่ไปไม่พ้นเพราะน้ำลึก ด้วยเหตุนี้ เองกลุ่มดาววัว
บนท้องฟ้า จึงเห็นเพียงหน้าวัวและโหนกวัวเท่านั้นเอง
2.Aquarius
หรือ ราศีกุมภ์ ไม่ค่อยมีความสำคัญ
อะไรเท่าไหร่ในจักรราศี มีตำนานกรีกกล่าวไว้นิดเดียวว่า หลัง
จากแม่น้ำไนล์ได้เกิดขึ้น เนื่องจากแกนิมิดส่งน้ำมายังโลกแล้ว มีชาย
คนหนึ่งที่ลงมาจากสวรรค์ เขาคือ คนแบกหม้อน้ำ ผู้นำหม้อเปล่ามา
ตักน้ำจากแม่น้ำไนล์แห่งนี้
หรือ ราศีกุมภ์ ไม่ค่อยมีความสำคัญ
อะไรเท่าไหร่ในจักรราศี มีตำนานกรีกกล่าวไว้นิดเดียวว่า หลัง
จากแม่น้ำไนล์ได้เกิดขึ้น เนื่องจากแกนิมิดส่งน้ำมายังโลกแล้ว มีชาย
คนหนึ่งที่ลงมาจากสวรรค์ เขาคือ คนแบกหม้อน้ำ ผู้นำหม้อเปล่ามา
ตักน้ำจากแม่น้ำไนล์แห่งนี้
3.Pisces
หรือ ราศีมีน นิทานกรีกกล่าวว่าปลาทั้งสอง ในกลุ่ม
ดาวปลาเป็นร่างแปลงของ เทพธิดาอโฟรไดที่ (Aphrodite) และ
บุตรชาย อิรอส (Eros) ซึ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำยูเฟรตีส เพื่อหนี
ภัยจากยักษ์ไทฟอน (Typhon) ผู้หายใจเข้าออกเป็นเปลวไฟ แต่
นิทานโรมัน เล่าว่า เป็นฝูงปลาที่พาอโฟรไดที่และอิรอสไปสู่ความ
ปลอดภัย
4.Aries
หรือ ราศีเมษ ตามตำนานกรีกเล่าไว้ว่า เทพ
ปริณายกซูส ส่งแกะขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อช่วยพริกซัส (Phryxus) และ
เฮอล์ (Helle) ลูกของราชา แห่งเทสซาลี (Thessaly) ให้รอดพ้น
จากทารุณกรรมของแม่เลี้ยงต่อมาพริกซัสได้นำแกะไปบูชายัญ และ
เมื่อเขาแขวนขนแกะไว้ในป่าเล็ก ๆ อันศักดิ์สิทธิ์ ขนแกะได้ กลายเป็น
ทองคำ กัปตันเจสันและลูกเรือได้แล่นเรืออาร์โกเพื่อค้นหา และได้พบขนแกะทองคำในที่สุด
หรือ ราศีมีน นิทานกรีกกล่าวว่าปลาทั้งสอง ในกลุ่ม
ดาวปลาเป็นร่างแปลงของ เทพธิดาอโฟรไดที่ (Aphrodite) และ
บุตรชาย อิรอส (Eros) ซึ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำยูเฟรตีส เพื่อหนี
ภัยจากยักษ์ไทฟอน (Typhon) ผู้หายใจเข้าออกเป็นเปลวไฟ แต่
นิทานโรมัน เล่าว่า เป็นฝูงปลาที่พาอโฟรไดที่และอิรอสไปสู่ความ
ปลอดภัย
4.Aries
หรือ ราศีเมษ ตามตำนานกรีกเล่าไว้ว่า เทพ
ปริณายกซูส ส่งแกะขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อช่วยพริกซัส (Phryxus) และ
เฮอล์ (Helle) ลูกของราชา แห่งเทสซาลี (Thessaly) ให้รอดพ้น
จากทารุณกรรมของแม่เลี้ยงต่อมาพริกซัสได้นำแกะไปบูชายัญ และ
เมื่อเขาแขวนขนแกะไว้ในป่าเล็ก ๆ อันศักดิ์สิทธิ์ ขนแกะได้ กลายเป็น
ทองคำ กัปตันเจสันและลูกเรือได้แล่นเรืออาร์โกเพื่อค้นหา และได้พบขนแกะทองคำในที่สุด
5.Taurus
หรือ ราศีพฤษ ดาวพฤษนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ดาวตา
วัว"ชื่อเฉพาะเป็นภาษาอาหรับว่า อัลดิบะแรน (Aldebaran) แปล
ว่าผู้ติดตาม นิยายกรีกได้กล่าวถึง ราศีพฤษนี้ว่า ในประเทศเฟนิเซีย
โบราณมีสาวงามชื่อยูโรปา ลูกสาวของอินาคัว ยูโรปาชอบฝูง!
เลี้ยงของพ่อมาก เทพปริณายกซูสได้หลง รักยูโรปา แต่รู้ว่าอินาคัส
คงไม่ยอมแน่ จึงแปลงร่างเป็นวัวสีขาวราวหิมะไปปะปนในฝูง!
เมื่อยูโรปาเห็นวัวสีขาวที่ไม่ดุจึงเข้าไปลูบวัว และขึ้นไปขึ่บนหลัง
วันต่อมาเมื่อยูโรปาขึ้นขี่วัวอีก ซูสคิดจะพาเธอไปเกาะครีต (Grete)
จึงวิ่งไปอย่างเร็วแต่ไปไม่พ้นเพราะน้ำลึก ด้วยเหตุนี้ เองกลุ่มดาววัว
บนท้องฟ้า จึงเห็นเพียงหน้าวัวและโหนกวัวเท่านั้นเอง
6.Gemini
หรือ ราศีเมถุน ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 8 ดวง
เรียงเป็นรูปคนคู่หรือฝาแฝดชื่อว่า คาสเตอร์ และ พอลลักซ์ และตำนาน
กรีกเล่าไว้ว่า คาสเตอร์และพอลลักซ์เป็นชื่อเทพเจ้ากรีก ทั้งคู่เป็นลูก
ฝาแฝดของเทพบดีซูส หรือเซอุส (Zeus) เมื่อ ฝาแฝดทั้งคู่โตขึ้น
แต่ละคนมีพรสวรรค์คนละอย่าง พอลลักซ์เป็นนักชกมวยที่ยิ่งใหญ่ที่
สุด ส่วนดาสเตอร์ฝึกฝนตนเอง เป็นผู้ปราบพยศม้าป่าที่มีความ
สามารถ เล่ากันว่าทั้งคู่มีรูปร่างหน้าตาท่าทางเหมือนกันมาก และเคย
ออกศึกสงครามร่วม กันหลายครั้ง เมื่อสิ้นชีวิตลง ซูสจึงส่งวิญญาณ
คนคู่นี้ขึ้นไปบนสวรรค์เป็นดาวที่เห็นชัดเจนตลอดคืนหน้าหนาว อยู่
ใกล้ เคียงกันประกอบเป็นกลุ่มดาวคนคู่
ทั้งชาวกรีกและชาวโรมันต่างนับถือบูชาดาวทั้งสองว่าเป็นเทพเจ้าที่
คอยคุ้มกันภัยอันตรายต่าง ๆ ทหารบกชาว โรมันหรือชาวกรีก ก่อน
ออกรบมักจะสวดอ้อนวอนต่อคาสเตอร์และพอลลักซ์ ขอให้พวกตน
ชนะข้าศึก ทหารเรือก็สวด อ้อนวอนกลุ่มดาวคนคู่เหมือนกัน โดยหวัง
ว่าหากเรืออับปางลงคนคู่จะช่วยให้รอดชีวิตได้ ทุกคนที่สวดมนต์
อ้อนวอนจะ ไม่ลืมจบคำอ้อนวอนด้วยคำว่า by Gemini ซึ่งต่อมา
เพี้ยนเป็น byJimmy
7.Cancer
หรือ ราศีกรกฎ ตำนานกรีกกล่าวว่าปูตัวนี้เป็นสมุนลับ ๆ
ของฮีรา ผู้เป็นมเหสีของซูส และเป็นศัตรูของเฮอร์คิวลิส ฮีราได้สั่ง
ให้ปูไปทำร้ายเฮอร์คิวลิส ขณะที่เฮอร์คิวลิส กำลังต่อสู้กับงูไฮดรา
แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่เฮอร์คิวลิส ฮีราจึงนำไปไว้บนสวรรค์กลายเป็นกลุ่มดาวปู
อ่านว่า สกอร์ปีไอ เป็นภาษาลาติน แปลว่าแมงป่องเหมือนกัน และก็แมง
ป่องใน 12 ราศีอะ แมงป่องตัวนี้เป็นแมงป่องยักษ์ที่ทวดจีอาสั่งให้ไปฆ่านายพรานโอ
ไรออน เพราะโกรธที่โอไรออนพูดว่าเขาสามารถฆ่าสัตว์ป่า ซึ่ง เปรียบเสมือนลูกหลาน
ของนางได้หมดทั้งโลก
หรือ ราศีเมถุน ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 8 ดวง
เรียงเป็นรูปคนคู่หรือฝาแฝดชื่อว่า คาสเตอร์ และ พอลลักซ์ และตำนาน
กรีกเล่าไว้ว่า คาสเตอร์และพอลลักซ์เป็นชื่อเทพเจ้ากรีก ทั้งคู่เป็นลูก
ฝาแฝดของเทพบดีซูส หรือเซอุส (Zeus) เมื่อ ฝาแฝดทั้งคู่โตขึ้น
แต่ละคนมีพรสวรรค์คนละอย่าง พอลลักซ์เป็นนักชกมวยที่ยิ่งใหญ่ที่
สุด ส่วนดาสเตอร์ฝึกฝนตนเอง เป็นผู้ปราบพยศม้าป่าที่มีความ
สามารถ เล่ากันว่าทั้งคู่มีรูปร่างหน้าตาท่าทางเหมือนกันมาก และเคย
ออกศึกสงครามร่วม กันหลายครั้ง เมื่อสิ้นชีวิตลง ซูสจึงส่งวิญญาณ
คนคู่นี้ขึ้นไปบนสวรรค์เป็นดาวที่เห็นชัดเจนตลอดคืนหน้าหนาว อยู่
ใกล้ เคียงกันประกอบเป็นกลุ่มดาวคนคู่
ทั้งชาวกรีกและชาวโรมันต่างนับถือบูชาดาวทั้งสองว่าเป็นเทพเจ้าที่
คอยคุ้มกันภัยอันตรายต่าง ๆ ทหารบกชาว โรมันหรือชาวกรีก ก่อน
ออกรบมักจะสวดอ้อนวอนต่อคาสเตอร์และพอลลักซ์ ขอให้พวกตน
ชนะข้าศึก ทหารเรือก็สวด อ้อนวอนกลุ่มดาวคนคู่เหมือนกัน โดยหวัง
ว่าหากเรืออับปางลงคนคู่จะช่วยให้รอดชีวิตได้ ทุกคนที่สวดมนต์
อ้อนวอนจะ ไม่ลืมจบคำอ้อนวอนด้วยคำว่า by Gemini ซึ่งต่อมา
เพี้ยนเป็น byJimmy
7.Cancer
หรือ ราศีกรกฎ ตำนานกรีกกล่าวว่าปูตัวนี้เป็นสมุนลับ ๆ
ของฮีรา ผู้เป็นมเหสีของซูส และเป็นศัตรูของเฮอร์คิวลิส ฮีราได้สั่ง
ให้ปูไปทำร้ายเฮอร์คิวลิส ขณะที่เฮอร์คิวลิส กำลังต่อสู้กับงูไฮดรา
แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่เฮอร์คิวลิส ฮีราจึงนำไปไว้บนสวรรค์กลายเป็นกลุ่มดาวปู
8.Leo
หรือ ราศีสิงห์ ตามตำนานกรีกกล่าวไว้ว่า ในสมัยก่อนชาวกรีก
โบราณเคารพบูชาดวงจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นเทพธิดาชื่อ เซลินี
(Selene) นอกเหนือจาก เทพเจ้าที่มีความสำคัญมากกว่า เช่น
เทพซูส และเทพอพอลโล ชาวกรีกต้องเซ่นไหว้เทพธิดาและเทพเจ้าเหล่า
นี้เป็น ประจำทุกปี แต่บังเอิญมีอยู่ปีหนึ่งชาวเมืองเนเมีย (Nemea)
ลืมเซ่นไหว้เทพธิดาเซลินี ทำให้เธอโกรธจัดถึงกับส่ง สิงโตจากฟ้าลง
มารังควานชาวนาชาวไร่ในเมืองเนเมีย ถ้าเป็นสิงโตธรรมดาก็ไม่มี
ปัญหาอะไร แต่มันเป็นสิงโตที่ดุร้าย หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า มันไล่
กัดกิน!และมนุษย์ที่ขวางหน้า ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว
ในขณะนั้นราชายูริสธีอัส (Eurystheus) มีผู้รับใช้ที่แข็งแกร่งมาก
คนหนึ่ง คือ เฮอร์คิวลิส (Hercules) ราชายูริสธีอัสจึงทรงพระ
บัญชาให้เฮอร์คิวลิสไปฆ่าสิงโตดุร้ายนั้นเสีย
เฮอร์คิวลิสเป็นผู้ชายร่างใหญ่ อดทนและแข็งแรงที่สุดในโลก เขามี
อาวุธหลายอย่างเช่น ดาบ มีด ธนู แต่ที่ชอบ มากคือ กระบองยักษ์ที่
ทำด้วยไม้
เฮอร์คิวลิสเข้าต่อสู้พันตูกับสิงโตดุร้ายอย่างห้าวหาญ แต่ทว่าอาวุธ
เช่น ธนูและดาบไม่สามารถทำอันตรายกับ ผิวหนังของสิงโตตัวนั้น
ได้เลย แม้จะใช้กระบองยักษ์ฟาดลงบนหัวของสิงโต ก็ยังไม่สามารถ
ทำอะไรมันได้เช่นกัน ในที่ สุดเฮอร์คิวลิสคิดได้ว่าคงไม่มีอาวุธอันใด
ที่จะใช้ฆ่าสิงโตตัวนี้ได้ เขาจึงย่อตัวลงต่ำเข้ากอดรัดสิงโต ใส่ "เฮ
ดล็อก" สิงโต ดิ้นไม่หลุดถูกรัดคอจนตาย
หลังจากที่เฮอร์คิวลิสล้มสิงโตดุร้ายตัวนั้นได้ เฮอร์คิวลิสได้ถลกหนัง
หัวและขาหน้าทั้งสองของสิงโตมาทำเป็น เครื่องแต่งตัว โดยห่ม
หนังสวมหัวเป็นหมวกกันชน และผูกขาหน้าไว้เหนือหน้าอก เขาจึง
ไม่เพียงมีเกราะคุ้มกันอาวุธ แต่ยังดูดุร้ายน่ากลัวกว่าเมื่อก่อน และถ้า
ถือกระบองไม้ยักษ์ด้วยแล้วเฮอร์คิวลิสก็เหมือนมนุษย์อยู่ในถ้ำ
เทพธิดาเซลินีได้ส่งสิงโตกลับขึ้นไปอยู่บนฟ้าดังเดิม อยู่กลางฟ้าเป็น
กลุ่มดาวจักรราศี โดยเซลินี (ดวงจันทร์) ผ่านทุก ๆ เดือน และสิงโต
วิ่งหนีเฮอร์คิวลิสอยู่ตลอดเวลา โดยสิงโตจะอยู่สูงสุดบนฟ้า ในขณะ
ที่เฮอร์คิวลิสขึ้นทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเฮอร์คิวลิสขึ้นไป
สูงสุดสิงโตจะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก เฮอร์คิวลิสจึงไม่มีทางไล่
สิงโตทัน
หรือ ราศีสิงห์ ตามตำนานกรีกกล่าวไว้ว่า ในสมัยก่อนชาวกรีก
โบราณเคารพบูชาดวงจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นเทพธิดาชื่อ เซลินี
(Selene) นอกเหนือจาก เทพเจ้าที่มีความสำคัญมากกว่า เช่น
เทพซูส และเทพอพอลโล ชาวกรีกต้องเซ่นไหว้เทพธิดาและเทพเจ้าเหล่า
นี้เป็น ประจำทุกปี แต่บังเอิญมีอยู่ปีหนึ่งชาวเมืองเนเมีย (Nemea)
ลืมเซ่นไหว้เทพธิดาเซลินี ทำให้เธอโกรธจัดถึงกับส่ง สิงโตจากฟ้าลง
มารังควานชาวนาชาวไร่ในเมืองเนเมีย ถ้าเป็นสิงโตธรรมดาก็ไม่มี
ปัญหาอะไร แต่มันเป็นสิงโตที่ดุร้าย หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า มันไล่
กัดกิน!และมนุษย์ที่ขวางหน้า ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว
ในขณะนั้นราชายูริสธีอัส (Eurystheus) มีผู้รับใช้ที่แข็งแกร่งมาก
คนหนึ่ง คือ เฮอร์คิวลิส (Hercules) ราชายูริสธีอัสจึงทรงพระ
บัญชาให้เฮอร์คิวลิสไปฆ่าสิงโตดุร้ายนั้นเสีย
เฮอร์คิวลิสเป็นผู้ชายร่างใหญ่ อดทนและแข็งแรงที่สุดในโลก เขามี
อาวุธหลายอย่างเช่น ดาบ มีด ธนู แต่ที่ชอบ มากคือ กระบองยักษ์ที่
ทำด้วยไม้
เฮอร์คิวลิสเข้าต่อสู้พันตูกับสิงโตดุร้ายอย่างห้าวหาญ แต่ทว่าอาวุธ
เช่น ธนูและดาบไม่สามารถทำอันตรายกับ ผิวหนังของสิงโตตัวนั้น
ได้เลย แม้จะใช้กระบองยักษ์ฟาดลงบนหัวของสิงโต ก็ยังไม่สามารถ
ทำอะไรมันได้เช่นกัน ในที่ สุดเฮอร์คิวลิสคิดได้ว่าคงไม่มีอาวุธอันใด
ที่จะใช้ฆ่าสิงโตตัวนี้ได้ เขาจึงย่อตัวลงต่ำเข้ากอดรัดสิงโต ใส่ "เฮ
ดล็อก" สิงโต ดิ้นไม่หลุดถูกรัดคอจนตาย
หลังจากที่เฮอร์คิวลิสล้มสิงโตดุร้ายตัวนั้นได้ เฮอร์คิวลิสได้ถลกหนัง
หัวและขาหน้าทั้งสองของสิงโตมาทำเป็น เครื่องแต่งตัว โดยห่ม
หนังสวมหัวเป็นหมวกกันชน และผูกขาหน้าไว้เหนือหน้าอก เขาจึง
ไม่เพียงมีเกราะคุ้มกันอาวุธ แต่ยังดูดุร้ายน่ากลัวกว่าเมื่อก่อน และถ้า
ถือกระบองไม้ยักษ์ด้วยแล้วเฮอร์คิวลิสก็เหมือนมนุษย์อยู่ในถ้ำ
เทพธิดาเซลินีได้ส่งสิงโตกลับขึ้นไปอยู่บนฟ้าดังเดิม อยู่กลางฟ้าเป็น
กลุ่มดาวจักรราศี โดยเซลินี (ดวงจันทร์) ผ่านทุก ๆ เดือน และสิงโต
วิ่งหนีเฮอร์คิวลิสอยู่ตลอดเวลา โดยสิงโตจะอยู่สูงสุดบนฟ้า ในขณะ
ที่เฮอร์คิวลิสขึ้นทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเฮอร์คิวลิสขึ้นไป
สูงสุดสิงโตจะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก เฮอร์คิวลิสจึงไม่มีทางไล่
สิงโตทัน
9.Virgo
หรือ ราศีกันย์ ตามตำนานกรีกกล่าวไว้ว่า หญิงสาว
พรหมจารีคือ เทพธิดาแอสเตรีย ซึ่งเป็นธิดาของซูสเทพบดีและเท
มิส เธอลงมาจากศวรรค์พร้อมน้องสาวชื่อว่า พูดิซิเตรีย ทั้งคู่ถือ
พรหมจรรย์ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แอสเตรียเป็นเทพธิดาแห่งความ
ยุติธรรม ไม่เคยทำให้ผู้ใดหรือสัตว์โลกใด ๆ เลือดตกยางออก เธอ
ปรารถนาที่จะให้โลกร่มเย็น ไม่เบียดเบียนกันและกัน แต่เหตุการณ์
กลับเป็นตรงกันข้าม มนุษย์รบราฆ่าฟันกัน ขโมยข้าวของกันและกัน
คนจนถูกกดขี่ข่มเหง เธอทนไม่ได้จึงหนีเข้าไปอยู่ในป่าเขา มีผู้คน
จำนวนหนึ่งติดตามเธอไป ส่วนเทพธิดาผู้ เป็นน้องสาวทนไม่ไหวจึง
ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ แอสเตรียเชื่อว่าความยุติธรรมจะยังคงมีอยู่ใน
โลก แต่ในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องหนีไปอยู่ บนสวรรค์ เมื่อมี
อาชญากรรมเพิ่มขึ้น ความยุติธรรมหายไปจากโลกเหลือแต่ความผิด
หวังต่าง ๆ แอสเตรียขึ้นไปอยู่บนฟ้าในฐานะ หญิงพรหมจารี ซึ่งเธอ
จะปรากฏให้เห็นเฉพาะคนที่รักและใฝ่หาสันติภาพกับความยุติธรรม
เท่านั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ เธอจึงบด รวงข้าวแล้วหว่านเมล็ดข้าว
ไปรอบฟ้า กลายเป็นทางช้างเผือก ซึ่งมีแต่ความสวยงามร่มเย็น และสันติสุข
หรือ ราศีกันย์ ตามตำนานกรีกกล่าวไว้ว่า หญิงสาว
พรหมจารีคือ เทพธิดาแอสเตรีย ซึ่งเป็นธิดาของซูสเทพบดีและเท
มิส เธอลงมาจากศวรรค์พร้อมน้องสาวชื่อว่า พูดิซิเตรีย ทั้งคู่ถือ
พรหมจรรย์ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ แอสเตรียเป็นเทพธิดาแห่งความ
ยุติธรรม ไม่เคยทำให้ผู้ใดหรือสัตว์โลกใด ๆ เลือดตกยางออก เธอ
ปรารถนาที่จะให้โลกร่มเย็น ไม่เบียดเบียนกันและกัน แต่เหตุการณ์
กลับเป็นตรงกันข้าม มนุษย์รบราฆ่าฟันกัน ขโมยข้าวของกันและกัน
คนจนถูกกดขี่ข่มเหง เธอทนไม่ได้จึงหนีเข้าไปอยู่ในป่าเขา มีผู้คน
จำนวนหนึ่งติดตามเธอไป ส่วนเทพธิดาผู้ เป็นน้องสาวทนไม่ไหวจึง
ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ แอสเตรียเชื่อว่าความยุติธรรมจะยังคงมีอยู่ใน
โลก แต่ในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องหนีไปอยู่ บนสวรรค์ เมื่อมี
อาชญากรรมเพิ่มขึ้น ความยุติธรรมหายไปจากโลกเหลือแต่ความผิด
หวังต่าง ๆ แอสเตรียขึ้นไปอยู่บนฟ้าในฐานะ หญิงพรหมจารี ซึ่งเธอ
จะปรากฏให้เห็นเฉพาะคนที่รักและใฝ่หาสันติภาพกับความยุติธรรม
เท่านั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ เธอจึงบด รวงข้าวแล้วหว่านเมล็ดข้าว
ไปรอบฟ้า กลายเป็นทางช้างเผือก ซึ่งมีแต่ความสวยงามร่มเย็น และสันติสุข
10.Libra
หรือ ราศีตุลย์ ชื่อที่น่าสนใจเป็นภาษาอาหรับว่า ซูเบนเอสซา
มาลี (Zubeneschamali) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศ
เหนือ สว่างรองลงมาก็คือ ดวงที่ 2 มีชื่อว่า ซูเบนเอลเกนูบิ
(Zubenelgenubi) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศใต้ ตำนานก
รีก กล่าวไว้ว่า คันชั่งเป็นเครื่องมือที่เทพธิดาแห่งความยุติธรรมใช้
เพื่อวัดความเที่ยงธรรมในโลกมนุษย์
หรือ ราศีตุลย์ ชื่อที่น่าสนใจเป็นภาษาอาหรับว่า ซูเบนเอสซา
มาลี (Zubeneschamali) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศ
เหนือ สว่างรองลงมาก็คือ ดวงที่ 2 มีชื่อว่า ซูเบนเอลเกนูบิ
(Zubenelgenubi) แปลว่า ก้ามแมงป่องที่อยู่ทางทิศใต้ ตำนานก
รีก กล่าวไว้ว่า คันชั่งเป็นเครื่องมือที่เทพธิดาแห่งความยุติธรรมใช้
เพื่อวัดความเที่ยงธรรมในโลกมนุษย์
11.Scorpius
อ่านว่า สกอร์ปีไอ เป็นภาษาลาติน แปลว่าแมงป่องเหมือนกัน และก็แมง
ป่องใน 12 ราศีอะ แมงป่องตัวนี้เป็นแมงป่องยักษ์ที่ทวดจีอาสั่งให้ไปฆ่านายพรานโอ
ไรออน เพราะโกรธที่โอไรออนพูดว่าเขาสามารถฆ่าสัตว์ป่า ซึ่ง เปรียบเสมือนลูกหลาน
ของนางได้หมดทั้งโลก
12.Sagitarius
กลุ่มดาวคนยิงธนูครับ ชาวกรีกโบราณมีความ
เชื่อว่ามีจังหวัดหนึ่งของกรีกชื่อ ฌะสซาโลนิกา (Thessaionica)
มีประชากรเป็นคนครึ่งม้า โดย ครึ่งบนเป็นคนครึ่งล่างเป็นม้า คน
ครึ่งม้าตะผมล ไครรอน (Chirons) มีความเฉลียวฉลาดใช้ธนูเก่ง
มาก จึงมีหน้าที่สอนวีรบุรุษ เช่น เฮอร์คิวลิส ดังนั้น คนยิงธนูจึงได้ชื่อ
ว่าเป็นนักรบผู้แม่นธนู
กลุ่มดาวคนยิงธนูครับ ชาวกรีกโบราณมีความ
เชื่อว่ามีจังหวัดหนึ่งของกรีกชื่อ ฌะสซาโลนิกา (Thessaionica)
มีประชากรเป็นคนครึ่งม้า โดย ครึ่งบนเป็นคนครึ่งล่างเป็นม้า คน
ครึ่งม้าตะผมล ไครรอน (Chirons) มีความเฉลียวฉลาดใช้ธนูเก่ง
มาก จึงมีหน้าที่สอนวีรบุรุษ เช่น เฮอร์คิวลิส ดังนั้น คนยิงธนูจึงได้ชื่อ
ว่าเป็นนักรบผู้แม่นธนู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น